เสียงแหบเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในเสียงที่เราพูด ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสุขภาพ เป็นสัญญาณบอกถึงความผิดปกติของเส้นเสียงในกล่องเสียงที่ควรต้องดูแลรักษาแก้เสียงแหบเร่งด่วนก่อนที่จะกลายเป็นอาการเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบกับร่างกายในระยะยาว
เสียงแหบเกิดจากอะไร ?
- การใช้เสียงมากเกินไป เช่น การพูด ร้องเพลง หรือตะโกนเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือทำลายเส้นเสียง
- การติดเชื้อ: การติดเชื้อในทางเดินหายใจ เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือการติดเชื้อรา สามารถทำให้เกิดการอักเสบและบวมที่เส้นเสียง
- โรคที่เกี่ยวกับเส้นเสียง เช่น ตุ่มหนองในเส้นเสียง (vocal cord nodules) ตุ่มพรุน (vocal cord polyps) หรือเส้นเสียงอักเสบ (laryngitis)
- การสูบบุหรี่และการดื่มสุรา สารเคมีในบุหรี่และแอลกอฮอล์สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบที่เส้นเสียง
- การแพ้หรือปัญหาทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด หรือโรคกรดไหลย้อน
- ปัญหาทางประสาทหรือกล้ามเนื้อ โรคที่กระทบต่อเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อเส้นเสียง อาจทำให้เกิดเสียงแหบ
- ก้อนหรือมะเร็งในลำคอ การมีก้อนหรือการเติบโตผิดปกติในลำคอหรือเส้นเสียงสามารถทำให้เกิดเสียงแหบ
- การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน เช่น ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือในผู้ที่กำลังผ่านช่วงวัยหมดประจำเดือน
อาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
- เสียงแหบที่ไม่หายไปหลังจาก 2-3 สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่มีอาการเจ็บคอหรือไม่ได้ใช้เสียงมากเกินไป
- ปวดหรือความเจ็บปวดที่คอ หากความเจ็บปวดเกิดขึ้นร่วมกับเสียงแหบ
- มีปัญหาในการหายใจ เช่น การหายใจลำบากหรือการหายใจที่ทำเสียงดัง
- เสียงแหบที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน โดยไม่มีอาการหวัดหรือการใช้เสียงมากเกินไป
- การสูญเสียน้ำหนักโดยไม่มีสาเหตุ หรือมีอาการอื่นๆ เช่น การเจ็บที่หน้าอกหรือคอ
- การเปลี่ยนแปลงในเสียงที่ไม่หายไปหลังจากการรักษาพื้นฐาน เช่น หลังจากหยุดสูบบุหรี่หรือหลีกเลี่ยงสารระคายเคือง
- หากมีประวัติการสูบบุหรี่หรือการดื่มแอลกอฮอล์มาก เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดปัญหาที่รุนแรงขึ้นในเส้นเสียงและลำคอ
- เสียงแหบที่เกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น การไอเป็นเลือด การเปลี่ยนแปลงของเสียงที่ไม่หายไป หรือการมีก้อนในคอ
วิธีป้องกันและวิธีแก้เสียงแหบเร่งด่วน
- พักเสียง หลีกเลี่ยงการพูดหรือการใช้เสียงมากเกินไป การพักเสียงช่วยลดการอักเสบและการบาดเจ็บของเส้นเสียง
- การดื่มน้ำ ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อช่วยให้เส้นเสียงชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์, อากาศที่แห้งหรือมลพิษ
- การใช้สเปรย์หรือลูกอมบรรเทาอาการ ใช้สำหรับบรรเทาอาการระคายเคืองชั่วคราว
- การปรับแต่งพฤติกรรมการพูด เช่น การเรียนรู้เทคนิคการพูดที่ไม่ทำให้เกิดความเครียดกับเส้นเสียง
- การใช้ยา ในกรณีที่เสียงแหบเกิดจากการติดเชื้อหรืออาการอักเสบ อาจได้รับการรักษาด้วยยาตามอาการ
- การรักษาด้วยกายภาพบำบัด ในบางกรณีการบำบัดเพื่อพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อเส้นเสียงอาจเป็นประโยชน์
- การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากอาการเสียงแหบไม่หายไปหรือมีความรุนแรง เช่น เกิดจากตุ่มหนองบนเส้นเสียงหรือปัญหาอื่นๆ การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น
- การปรับปรุงสภาพแวดล้อม ใช้เครื่องทำความชื้นในห้องเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ
- การหลีกเลี่ยงการกระตุ้นทางอาหาร เช่น อาหารที่มีกรดสูงหรือคาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนและส่งผลต่อเส้นเสียง
ข้อสรุป
การแก้เสียงแหบเร่งด่วนนั้นจึงมีความสำคัญอย่างมากเพราะเสียงไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสำหรับการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในด้านอื่นๆ ของการมีชีวิตและการมีส่วนร่วมในสังคม เพราะฉะนั้นเมื่อมีอาการเสียงแหบที่ไม่หายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือมีอาการอื่นๆ เช่น ความเจ็บปวด การหายใจลำบาก หรือการลดน้ำหนักโดยไม่มีสาเหตุ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม